คู่มือแนวทางการเฝ้าระวังและป้องกันความเสี่ยงทางสุขภาพ ของหญิงตั้งครรภ์และเด็กปฐมวัยในพื้นที่เสี่ยงปนเปื้อนสารปรอท
คู่มือแนวทางการเฝ้าระวังและป้องกันความเสี่ยงทางสุขภาพ
ของหญิงตั้งครรภ์และเด็กปฐมวัยในพื้นที่เสี่ยงปนเปื้อนสารปรอท
Developing Surveillance and Prevention Guidance
for Pregnant Women and Early Childhood at Risks from Mercury Exposure
ปรอทที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นได้ทั้งตามธรรมชาติและเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ที่ปล่อยสารปรอทสู่สิ่งแวดล้อม ปรอทมี 3 ประเภท ประกอบด้วย 1) โลหะปรอท หรือปรอทองค์ประกอบ 2) สารปรอทอนินทรีย์ และ 3) สารปรอทอินทรีย์ ปรอทเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทาง คือ การหายใจ ทางผิวหนัง และ การรับประทาน ผลกระทบต่อสุขภาพขึ้นอยู่กับประเภทของปรอท ขนาดของการสัมผัส ระยะเวลา และวิธีการสัมผัส รวมถึงความไวต่อการเกิดพิษของผู้รับสัมผัส โลหะปรอทหรือปรอทองค์ประกอบ (metallic mercury หรือ elemental mercury) จะระเหยเป็นไอที่อุณหภูมิห้อง ส่วนใหญ่เข้าสู่บรรยากาศจากการทำอุตสาหกรรมต่างๆ การเผาขยะและการเผาไหม้แบบเปิด ในอุปกรณ์การแพทย์ หลอดไฟชนิดประหยัดไฟ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอมัลกัมอุดฟัน ส่วนใหญ่โลหะปรอทเข้าสู่ร่างกายมนุษย์โดย การสูดเข้าทางเดินหายใจ การซึมผ่านผิวหนัง หรือการกลืนกิน ทำให้เกิดความผิดปกติในการทำหน้าที่ของปอดและไต การสัมผัสโลหะปรอทในปริมาณมากเป็นระยะเวลานานจะมีผลต่อระบบประสาท ปรอทอนินทรีย์ (inorganic mercury) พบในเครื่องสำอางที่ทำให้ผิวขาวที่เจือปนสารปรอทเกินเกณฑ์ที่กำหนดเข้าสู่ร่างกายจากการใช้เครื่องสำอางที่ทำให้ผิวขาวที่เจือปนปรอทในปริมาณที่สูง ทำให้ปรอทซึมเข้าสู่ผิวหนังหรือการสูดดม ทำให้เป็นพิษต่อไต และ ผิวหนังอักเสบ ปรอทอินทรีย์ (organic mercury) เปลี่ยนรูปมาจากปรอทอนินทรีย์ โดยกระบวนการทางชีวภาพที่มีสิ่งมีชีวิตในแหล่งน้ำหรือแบคทีเรียมาเกี่ยวข้องในกระบวนการชีวเคมีเปลี่ยนปรอทอนินทรีย์ให้เป็นเมทิลเมอคิวรี่ (Methylmercury: MeHg) ซึ่งเป็นรูปแบบของปรอทที่เป็นอันตรายต่อระบบประสาทสมองของทารกในครรภ์และเด็ก เมทิลเมอคิวรี่เข้าสู่ร่างกายทางระบบทางเดินอาหารโดยการรับประทานปลาน้ำจืด น้ำเค็ม และ หอย หลายชนิด จากแหล่งน้ำที่มีสารปรอทปนเปื้อน โดยเฉพาะการรับประทานปลาที่มีขนาดใหญ่ที่เป็นผู้ล่า ปลาที่กินปลาเล็กอื่นๆ เป็นอาหาร ปลาที่อาศัยอยู่ตามท้องพื้นน้ำจะมีสารปรอทมากกว่าปลาที่มีขนาดเล็ก ปลาที่กินพืชเป็นอาหาร การเกิดพิษจากเมทิลเมอคิวรี่จะเป็นลักษณะของการสะสมเป็นระยะเวลานาน เมื่อมีปริมาณมากขึ้น จะเป็นอันตรายต่อระบบประสาท การรับรู้ และการเคลื่อนไหว
คลิกที่รูปปกด้านล่างเพื่ออ่านต่อ